ศาสตร์ฮวงจุ้ยและความเป็นมา

ชาวจีนเมื่อหลาย พันปีมาแล้วมีความเชื่อถือเกี่ยวกับเรื่องการแสวงหาถิ่นที่อยู่อาศัย การจัดวางตำแหน่งต่าง ๆมีความหมายผูกพันไปถึงบุคคลที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือเพื่ออำนาจบารมีที่จะปกครองผู้น้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือเพื่อให้กิจการงานดำเนินลุล่วงไปด้วยความก้าวหน้า มั่นคง ชีวิตครอบครัวมีความเจริญ ลูกมากมาย รู้จักกตัญญูต่อบิดามารดาอีกด้วย

คำว่า " ฮวงจุ้ย " ที่เราได้ยินกันมา คำว่า " ฮวง " แปลว่า ลม การเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เมื่อกระทบกับร่างกายจะรู้ได้ถึงความเย็นสบาย ปรอดโปร่ง ส่วนคำว่า " จุ้ย " แปลว่า น้ำ เป็นสัญลักษณ์ของความสดชื่น มีชีวิต น้ำจึงถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึงของคน

ฮวงจุ้ยนั้นสำคัญไฉน จำเป็นต้องรู้ไหม

การเลือกเฟ้น ชัยภูมิที่เหมาะสมในสมัยนี้ มีข้อจำกัด ความแตกต่างอยู่มากหลักใหญ่ของฮวงจุ้ยคือ ความมั่นคง แข็งแรงเป็นหลัก เปรียบความมั่นคงดังขุนเขา ต้องอยู่ด้านหลังสถานที่ เมื่อด้านหลังเป็นหลักค้ำจุนแล้ว ซ้ายขวาของชัยภูมิยังต้องดูตำแหน่งของ " มังกรเขียวและเสือขาว " อีกด้วย ซึ่งถ้าเปรียบก็เท่ากับแขนซ้ายขวา ของพนักที่นั่งนั้นเอง เมื่อด้านหลังแข็งแกรง ซ้าย - ขวาก็มีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ประคับประคองแล้ว ยังมีส่วนสำคัญที่สุด ส่วนหนึ่งในการจัดหาชัยภูมิที่ดีคือ ให้มีน้ำโอบล้อมด้านหน้าอันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพีชพันธ์ธัญญาหารใน พื่นที่ที่มีน้ำหล่อเลื้ยงอยู่ตลอดเวลา ด้านนอกบริเวณยังมีเนินเล็ก ๆ ซึ่งในทางฮวงจุ้ยมักจะเรียกเนินนี้ว่า " หงษ์แดง " ถ้าเปรียบเทียบการนั่งอยู่บนโซฟา ก็คือ มี่ที่วางเท้าด้านหน้า เพื่อให้อยู่ในอิริยาบทที่สบายที่สุด

ป้จจุบันคงเป็นการยากที่จะหาชัยภูมิที่สมบูรณ์เช่นที่ว่านี้  ส่วนที่มีฐานะกำลังเงิน ก็อาจจะไข่วคว้าได้ แต่คนที่ฐานะความเป็นอยู่ที่ด้อยเล่า จะไม่มีโอกาสที่จะได้ " ฮวงจุ้ย " ที่ดีเลยหรือ เมือเป็นเช่นนี้ การนำสภาพชัยภูมิของ " ฮวงจุ้ย " มาใช้ก็ต้องประยุกต์มาใช้ทดแทนกัน โดยมีหลัก ที่จะนำมาใช้งานอยู่หลายแผนภูมิ แต่ละแผนภูมิก็มีรายละเอียดการใช้งานแตกต่างกัน เช่น ใช้วันเดื่อนปีเกิด ของเจ้าของสถานที่ให้สอดคล้องกับอำนาจอิทธิพลแห่งทิศทางเป็นหลัก

อิทธิพลแห่งทิศทางเหล่านั้นจะให้คุณให้โทษแก่ผู้อยู่อาศัยได้ตั้งแต่โทษเล็ก น้อยไปจนถึงหมดตัวนั้น นอกจากหลักการเกี่ยวกับรหัสทิศทางแล้ว ยังมีข้อปลีกย่อยซึ่งมีรายละเอียดอีกมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการดู " ฮวงจุ้ย " และการดูฮวงจุ้ยนั้นจะต้องดูจากสถานที่จริง ไม่ใช่คำบอกเล่า เพราะบางสิ่งที่เจ้าของบ้านคาดไม่ถึงอาจเป็นสิ่งที่เป็นตัวกำหนดความร้ายแรง ถึงขั้นหายนะให้เจ้าของบ้านได้ รายละเอียดปลีกย่อย เช่นการวางข้าวของต่าง ๆในบ้าน อาจจะทิ่มแทงกันเอง เป็นเหตุให้คนในบ้านมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ

หรือบางสิ่งบางอย่างอาจนำความเจ็บป่วยมาให้ สุขภาพไม่แข็งแรงด้วยสาเหตุที่มองไม่เห็น และบอกใครไม่ได้ เหล่านี้เป็นปัญหาที่วิเคราะห์ได้ตามหลักวิชาศาสตร์แ่ห่งฮวงจุ้ย ที่ไ่ม่ใช่เรื่องแห่งความงมงายแต่เป็นศาสตร์ของการผสาน สิ่งมีชีวิตเข้ากับธรรมชาติกันอย่างกลมกลืน ถ้าศาสตร์ด้านนี้ไม่ดีจริงคงไม่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น