สูตรไหว้พระ 9 วัด (จ.กรุงเทพฯ)
สูตรไหว้พระ 9 วัด
อย่างถูกวิธีภายในวันเดียว
เสริมดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง
เพื่อความอยู่ดีมีสิริมงคลแก่ท่าน และครอบครัว
ความเชื่อแห่งความสำเร็จ
(Symposium of Acheivements)
- วัดพระแก้ว
- ศาลหลักเมือง
- วัดโพธิ์
- ศาลเจ้าพ่อเสือ
- วัดสุทัศน์ ฯ วัดบวรนิเวศวิหาร
- วัดชนะสงคราม
- วัดระฆังโฆสิตาราม
- ภูเขาทองวัดสระเกศ
ไหว้พระ 9 วัด ไม่ต้องดูฤกษ์ยาม
1. วัดพระแก้ว
- วัดพระแก้ว หรือที่มีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนศาสดารามการไหว้พระแห่งแรกตาม ตำราไหว้พระ9 วัด
ที่เลือกเอาวัดพระแก้วเป็นแห่งแรก ก็เพราะว่า เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร
หรือ พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งของไทย กล่าวคือสร้างด้วยแก้วมณีมีค่า ซึ่งมีขนาดใหญ่
ประการหนึ่ง มีพุทธลักษณะงดงามประการหนึ่ง และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายในประเทศไทยต่างนับถือว่ามีฤทธานุภาพ
ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง การไปไหว้พระแก้วนี้ เพื่อสักการะบูชา พระแก้วมรกต เพื่อให้ท่านร่ำรวย มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย
เป็นทุนรอนในการดำเนินกิจการ และเพื่อความมั่งคั่งมั่นคง
เมื่อจุดเทียนและธูปเรียบร้อยแล้ว ให้ว่า นะโมฯ 3 จบ
(นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธะ 3 จบ)
จากนั้นท่อง " วาละลุกัง สังวาตังวา " ( 3 จบ )
พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรจากพระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์
ถึงตอนนี้ท่านอย่าเพิ่งกลับให้ขึ้นไปที่ระเบียงพระอุโบสถและเดินขึ้นไปทางประตูเข้าไป
ในพระอุโบสถเพื่อกราบ นมัสการพระแก้วมรกตที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน
ขอพรจากพระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่เบื้องหน้าของท่าน ให้ท่านร่ำรวยมีแก้วแหวนเงินทองมากมาย
เพื่อเอาไว้ทำทุน และเลี้ยงตน เสร็จแล้วออกมาพรม น้ำมนต์ ที่ตั้งอยู่ระเบียงหน้าพระอุโบสถ
เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวท่าน (น้ำมนต์ที่ พระอุโบสถวัดพระแก้วได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก)
2. ศาลหลักเมือง
- การมาสักการะบูชา หลวงพ่อหลักเมือง ก็เพื่อท่านจะได้มี หลักมั่นคงมีหลักชัยในการดำเนินชีวิตตลอด
จนมีหลักการ ที่ดีในการทำมาหาเลี้ยงชีพ มีหลักยึดเหนี่ยวเพื่อจักได้ไม่ซวดเซ วิธีสักการะบูชาให้เดินตรงไป
ที่ศาลจะเห็น " เสาหลักเมืองจำลอง " ซึ่งเขาทำไว้ 2 เสา จะสังเกตเห็นผ้าแพร 3 สี
( 3 ผืน) ผูกที่เสา การบูชาศาลหลักเมืองนั้น ถ้าจะให้ถูกต้องตามตำรา ให้จุดธูปอย่างเดียวโดยไม่ต้องจุดเทียน
จากนั้นค่อยเอาผ้าพันแพร 3 ผืน ไปผูกที่เสาหลักเมืองจำลอง และปิดทอง
ขณะบูชานั้นให้อธิษฐานให้ตนเองมีหลักฐานมั่นคง มีหลักชัยในการดำเนินชีวิต มีหลักยึดเหนี่ยวในการประกอบ
สัมมาชีพ เสร็จจากนั้นให้เดินทางไปที่ อาคารศาลหลักเมืองใหญ่ เพื่อกราบบูชา เสาหลักเมือง จริงภายในศาล
ท่านจะเห็น เสาหลักเมือง 2 เสา เสาหลักเมืองต้นเดิม จะมีลักษณะผอม และสูงกว่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1
ส่วน เสาหลักเมืองต้นปัจจุบัน มีลักษณะใหญ่กว่าหมายถึงลำต้นอวบกว่า ฝังอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเสาหลักเมือง
ต้นเดิม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อสักการะ พระหลักเมือง เสร็จแล้ว ควรไปสักการะเทพารักษ์สำคัญสำหรับ
พระนคร (กทม.) ทั้ง 5 องค์ อันมี พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าหอกลอง และเจ้าเจตคุปต์
ในศาลเทพารักษ์ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของ ศาลหลักเมือง ในบริเวณเดียวกัน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ท่าน
และครอบครัว
3. วัดโพธิ์
- วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนฯ อยู่ติดกับพระบรมมหาราชวังใกล้ ๆ กับท่าเตียน
ตามตำราไหว้พระ 9 วัด ระบุว่า การไหว้พระที่วัดโพธิ์ เพื่อให้ร่มเย็น ขอความเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร
พระประธาน ประจำพระอุโบสถวัดโพธิ์ คือ พระพุทธเทวาปฏิมากร เป็นพระปางสมาธิ หน้าตัก
5 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว สูงตลอดพระรัศมี 7 ศอกคืบ พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธปางสมาธิ
เป็นพระประจำวันของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งถือ กันว่าเป็นวันครู ผู้บูชาพระปางนี้ แสดงถึงความมั่นคง
แห่งจิตใจ มีสติสัมปชัญญะทุกขณะ ออกจากวัดโพธิ์ เรียกรถตุ๊กๆ ไป ศาลเจ้าพ่อเสือ แถวถนนตะนาว
อยู่ใกล้ ๆ กับวัดมหรรณพาราม
4. ศาลเจ้าพ่อเสือ
- ศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งคนจีนเรียกกันว่า " ตั่วเล่าเอี้ย " ตั้งอยู่เลขที่ 468 ถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า
เป็นศาลเจ้าชาวจีนที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน
เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ และรูป เจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนนับถือมากที่สุด
ข้อแนะนำสำหรับการไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าพ่อเสือก็คือ ก่อนจะเข้าไปไหว้ ควรแวะซื้อส้ม 3 -4 ใบ หรือ 1 กิโล
(คนจีนเรียก ส้ม ว่า ไต้กิก มีความหมายว่าเป็น มงคลยิ่ง) และเครื่องเซ่นเจ้าพ่อเสือ 1 ชุด
(ซึ่งจะมีหมู 3 ชั้น ข้าวสุก และไข่ไก่) ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งวางขายอยู่หลายเจ้าบริเวณหน้าศาลเจ้า
และข้าง ๆ ศาลเจ้าตรงใกล้ ๆ กับบริเวณที่รับฝากรถ ถ้าคนไม่แน่นมาก ควรเติมน้ำมันในตะเกียง
ด้านซ้ายขวา เพื่อเพิ่มบุญกุศล ชีวิตจะได้สว่างไสว ไม่มืดแปดด้าน เสร็จแล้วให้ไปลา ของไหว้ที่โต๊ะ
เก็บส้มไหว้ ไว้แบ่งกันกินที่บ้านเพื่อให้มีโชคสวัสดี ส่วนกระดาษเงินกระดาษทองไปเผาในเตาที่ทาง
ศาลเจ้าจัดไว้ให้ หลังจานั้นกลับไปที่ หน้าองค์เจ้าพ่อเสือ เพื่อให้อาแป๊ะ หรือเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าฯ
เอาเนื้อหมูสดที่ถวาย ถูที่ปากท่านแล้วพูดว่า
" เฮง ๆ " นั่นแหละ.... ขอให้ " เฮง " ( หรือโชคดี ) สมปรารถนาตลอดปี และตลอดไป
ที่สำคัญอย่าลืมเช่า " ฮู้ " หรือยันต์เจ้าพ่อเสือที่ศาลเจ้า มาติดไว้ที่บ้าน หรือสำนักงาน
บางคนก็พกติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่รอดปลอดภัยตลอดปี เสร็จจาก พิธีกรรม ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ
จะเดินหรือนั่งรถตุ๊ก ๆ มาที่ วัดสุทัศน์ฯ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าพ่อเสือ
5. วัดสุทัศน์ ฯ
- วัดสุทัศน์ฯ หรือ วัดสุทัศน์เทพวราราม อยู่ที่เสาชิงช้า ถนนบำรุงเมือง ใกล้กับที่ว่าการกรุงเทพมหานคร
(อีกด้านหนึ่งติดกับถนนตีทอง) ถ้าไหว้พระ หลวงพ่อพระศรีศากยมุนี ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงเพื่อขอให้มี
สติปัญญาดี มีทรรศนะ ที่ถูกต้องดีงาม เมื่อจะคิดอ่านกระทำการใดๆ ก็สามารถคิดได้ พูดให้ทันสมัยหน่อยก็คือ
ขอให้มี วิชั่นที่ดี ซึ่งตรงกับชื่อของวัด คือ " สุทัศน์ " นั่นเอง ข้าวของที่ต้องตระเตรียม ก็มีพวงมาลัย
2 พวง ธูปเทียน 1 ชุด เมื่อจุดธูปเทียนบูชา และปิดทองพระ (หลวงพ่อพระศรีศากยมุนีองค์จำลองหน้าพระวิหารหลวง)
แล้ว ให้เดินเข้าไปในพระวิหาร เพื่อกราบไหว้ พระศรีศากยมุนี องค์ใหญ่ซึ่งเป็นองค์จริง พร้อมกับอธิษฐาน
ขอพระจากท่านให้ท่านช่วยชี้แนะ ทรรศนะ ที่ถูกต้องในการดำรงชีวิต และการดำเนินงาน เมื่อไหว้พระ
" หลวงพ่อพระศรีศากยมุนี " ที่วัดสุทัศน์ฯ เสร็จแล้ว วัดที่จะไปไหว้พระต่อก็คือ วัดบวรฯ แถวบางลำพู
6. วัดบวรนิเวศวิหาร
- วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ต้นถนนตะนาว ที่วัดบวรฯนี้
ตามตำราว่าให้ไปไหว้พระเพื่อขอให้ชีวิต (ของท่านผู้อ่านเอง) ปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง ถ้ามีเคราะห์กรรมใดๆ
ก็ขอให้ผ่อนหนักเป็นเบา ข้อมูลเกี่ยวกับวัดบวรฯ ที่ท่านจำเป็นต้องรับทราบก็คือ ทางวัดบวรฯ จะเปิดประตูโบสถ์
ให้ไหว้พระในวันพระจนถึงบ่าย 4 โมง ส่วนวันธรรมดาที่ไม่ตรงกับวันพระ ประตูจะปิดเร็วมาก กล่าวคือ
เปิดเฉพาะช่วง และจะปิดตอน 9 โมงเช้า ทำให้หลายคนมาไม่ทันไหว้นับว่าน่าเสียดายโอกาสอันดียิ่ง
อย่างไรก็ตาม ท่านที่มาไหว้พระที่วัดบวรฯ ไม่ทัน เพราะประตูอุโบสถปิดเสียก่อน ไม่ต้องตกใจนะครับ
ให้เดินไปที่หน้าประตูโบสถ์ ทางวัดมีกระถางธูปเทียน และถาดให้นำดอกไม้บูชาวางเอาไว้สำหรับผู้ที่พลาด
ไม่ทันเวลา ( ประตูโบสถ์ปิด ) จะจุดธูปเทียนบูชาด้านนอก พระอุโบสถ เมื่อกราบนมัสการ " พระพุทธชินสีห์ "
ในพระอุโบสถเสร็จแล้ว ก่อนกลับ อย่าลืม พรมน้ำพระพุทธมนต์ ที่ตั้งอยู่ติดด้านหน้า " พระพุทธชินสีห์ "
(ทั้ง 2 ข้าง คือทั้งด้านซ้าย - ขวา ) เป็นที่กล่าวขานกันว่าน้ำพระพุทธมนต์หน้า พระพุทธชินสีห์
ในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง สามารถแก้อาถรรพ์ต่าง ๆได้ดีมากเป็นของดีที่คนกรุงเทพฯ
ไม่ค่อยรู้กัน จากวัดบวรนิเวศฯ แล่นรถยนต์อ้อมวงเวียนหน้าถนนสิบสามห้างตัดผ่าถนน ถนนจักรพงศ์ เมื่อ
ถึง วัดชนะสงคราม มีที่จอดรถบริการอย่างดี
7. วัดชนะสงคราม
- วัดชนะสงคราม ตั้งอยู่ถนนจักรพงศ์ ตรงถนนข้าวสาร บางลำพู แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร
ไหว้หลวงพ่อในพระอุโบสถ เพื่อให้ท่านประสบความสำเร็จมี " ชัยชนะ " อุปสรรคต่าง ๆ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง
ในชีวิต และการงาน ทางวัด ฯ จัดที่บูชาพระภายในโบสถ์ ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าภายในโบสถ์
เป็นลักษณะโต๊ะหมู่บูชา โดยมีพระพุทธนรสีห์ (หลวงพ่อปู่) องค์จำลองเป็นพระประธาน พร้อมกับพระพุทธ
ประจำวันเกิด ท่านจุดธูปเทียนบูชาที่นี่ พร้อมกับปักธูปเทียนในกระถางที่ทางวัดเตรียมให้วางดอกไม้
หรือพวงมาลัยบนพาน พร้อมกับขอพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง เสร็จแล้วเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธนรสีห์
องค์จริงที่อยู่ด้านในสุดของพระอุโบสถ พร้อมกับอธิษฐานขอพรจากท่าน ให้ชนะอุปสรรคทั้งปวงเช่นกัน
อันเป็นอุปเท่ห์ ที่ได้จากนามของวัด เมื่อไหว้พระที่วัดชนะสงครามเสร็จ ท่านอาจจะพักรับประทานอาหารกลางวัน
แถว ๆ บางลำพู จากนั้นเดินทางไปที่ ท่าช้าง เพื่อข้ามฟากไปไหว้พระที่ วัดระฆังฯ
8. วัดระฆังโฆสิตาราม
- วัดระฆังโฆสิตาราม ตามตำราหรือตามสูตรไหว้พระ 9 วัด นั้น คนเก่าแก่ท่านเล่าว่าการไหว้พระที่
วัดระฆังฯ ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ถ้าจะให้ได้บุญกุศลจริง ๆ ต้องทำอย่างที่โบราณ
ท่านว่าไว้ คือต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำบุญ จึงจะได้ มหากุศล (การไปทำบุญยิ่งยากลำบากเท่าไร
ก็ยิ่งได้บุญมากเท่านั้น) มีบางคนและหลายท่านไม่เข้าใจอุปเท่ห์ ดังกล่าว ต่างเอาความสะดวกเข้าว่า
โดยการขับรถ หรือเดินทางโดยรถยนต์ไปวัดระฆังฯแทน ดังนั้น เพื่อให้ได้ มหากุศล ตามเคล็ด
จึงขอแนะนำว่าให้ไปขึ้นเรือที่ ท่าช้าง เพื่อข้ามฟากไปยังท่าวัดระฆังฯ จุดมุ่งหมายของการไหว้พระที่
วัดระฆังฯ ก็คือ การสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี) อริยสงฆ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เพื่อขอพระโดยการสวดคาถาชินบัญชร ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นเรือที่ท่าวัดระฆังฯ เพื่อข้ามฟากมายังท่าช้าง
(ฝั่งกรุงเทพมหานคร) มีข้อแนะนำเป็นเกร็ด เล็กเกร็ดน้อยเพิ่มเติมว่า หากใครอยากได้บุญมากขึ้นอีก
ตอนจะข้ามฟาก (แม่น้ำเจ้าพระยา) มายังท่าช้างท่านแนะนำให้หาซื้อ หอยขมสัก 1 กิโล
(หาซื้อไม่ยาก เพราะแม่ค้าแถวนั้นเขารู้เคล็ดเรื่องนี้ดี เตรียมใส่กะละมังมาขายอยู่หลายเจ้า ) ใส่ถุงถือมา
แล้วเอาไปปล่อยลงแม่น้ำเจ้าพระยา ชีวิตของท่านก็จะหายจากความขมขื่นทั้งสิ้นทั้งปวง
เมื่อถึงท่าช้างแล้ว ก็เดินทางไปวัดสระเกศ เพื่อบูชา พระมหาเจดีย์ บนยอดภูเขาทอง
9. ภูเขาทองวัดสระเกศ
- ภูเขาทองวัดสระเกศ จุดสุดท้ายของการไหว้พระ 9 วัด ให้เดินขึ้นไปบนยอดภูเขาทอง
เพื่อบูชาพระมหาเจดีย์ เป็นเคล็ด เพื่อให้ชีวิตมีดวงชะตาสูง ไม่ตกต่ำ หมายถึง ความสำเร็จนั่นเอง
ตามตำราให้ไปไหว้พระที่ภูเขาทอง (หรือ บรมบรรพต ตามภาษาทางราชการ ซึ่งประกาศมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5)
เป็นจุดสุดท้าย อาจจะเป็นเพราะสถานที่ที่ต้องออกแรงเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นกว่าจะเสร็จการบูชาพระมหาเจดีย์
ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ภายในเจดีย์มีสถูปศิลาเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เมื่อท่านเดินขึ้นบันไดไปถึงยอดภูเขาทอง ให้ไปจุดธูปเทียนบูชาพระ ซึ่งทางวัดได้จัดสถานที่ไว้ให้จากนั้นเดินขึ้น
ไปปิดทอง พระสถูปศิลา ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในองค์พระเจดีย์บนพระบรรพต (ภูเขาทอง)
แผ่นกระดาษที่ หุ้มแผ่นทองอย่าขย้ำทิ้งให้เขียนชื่อ และนามสกุล ลงมาใส่ในบาตรใหญ่ ๆ ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้
ให้ข้างบนนั้น เพื่อเป็นการ สะเดาะเคราะห์ด้วย ที่สำคัญ อย่า นำชื่อ - ดวงชะตา ไปติดที่องค์เจดีย์
ซึ่งเป็นการแสดงความไม่เคารพ (ทางวัดได้เขียนใบเตือนไว้แล้ว) จากนั้นให้เดินขึ้นไปที่ องค์พระเจดีย์
บนยอดภูเขาทอง ซึ่งบุโมเสคสีทอง (มีเจดีย์เล็ก 4 มุม) ทำพิธีนมัสการ พระบรมธาตุด้วยการพนมมือไหว้
แล้วเดินเวียนรอบ องค์พระเจดีย์ (สีทอง) 3 รอบ และต้องเวียนขวา คือหันด้านขวา เข้าหาองค์พระเจดีย์
เสร็จแล้วให้ไหว้พระเจดีย์ โดยพนมมือยกสูงให้นิ้วอยู่เหนือศีรษะ ปลายนิ้วมือมุ่งตรงไปยังยอดพระเจดีย์
ค้อมศีรษะลง เพื่อรับพลัง กุศลธรรม และวิมุตติธรรมจากองค์พระบรมสารีริกธาตุได้เต็มที่ และทำให้มี
สมาธิในการสักการะ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานจิตสูงขึ้นด้วย เป็นอันเสร็จพิธีไหว้พระ 9 วัด อย่างสมบูรณ์
ไหว้พระ 9 วัด ไม่ต้องดูฤกษ์ยาม
- การไหว้พระ 9 วัด สามารถกระทำได้ทุกโอกาสทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องดูฤกษ์ดูยามแต่ประการใด
รู้สึกไม่สบายใจหรือเกิดศรัทธาเมื่อใด ก็สามารถกระทำได้ทันที ถ้าเป็นไปได้ควรไปไหว้พระ 9 วัด
ในวันพระ เป็นดีที่สุด เพราะเป็น วันธรรมสวนะ ทำให้ท่านสามารถเข้าไปนมัสการพระพุทธรูปองค์สำคัญ
ได้อย่างสะดวก ไม่ต้องมาไหว้พระกลางแจ้ง หรือนอกโบสถ์ โดยไม่ได้สัมผัสความขลังหรือพลังอันศักดิ์สิทธิ์
แห่งมงคลสถานเหล่านั้น เคล็ดสำคัญอีกประการหนึ่ง ก็คือ ก่อนที่ท่านจะไปไหว้พระ 9 วัด 1 คืน
ใคร่ขอให้ท่านไหว้ บิดามารดาของท่านด้วยอาการเคารพอย่างเทิดทูน ท่านเป็น พระของลูก ๆ ท่าน
เป็นบุคคลที่เราใกล้ชิดที่สุดถ้าเราไม่บูชา และนับถือท่านแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ก็ไม่มีความจำเป็น
ต้องบูชาต่อไป และห้ามด่าว่าหรือเบียดเบียนรังแกผู้บังเกิดเกล้าของเราเป็นฯอันขาด ไม่เช่นนั้นต้องตกนรก
ทั้งเป็น ทำการค้าไม่เจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานจะต้อง ตกต่ำด้วยเช่นกัน