ศาสตร์และศิลป์ในการตั้งชื่อ

ศาสตร์และศิลป์ในการตั้งชื่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็อาจจะไม่ยากเกินไป  ถ้าท่านสนใจว่ามีอะไรบ้าง

และอะไรบ้างที่ควรรู้

1.    ชื่อดีควรประกอบไปด้วยหลักทักษาที่ถูกต้องก่อน  เช่น บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี

และสิ่งที่ต้องห้ามไม่ควรมีในชื่อคือ  กาลกิณี เพราะถ้ามีนั้นหมายถึง ความล้มเหลว หายนะ อุปสรรค ปัญหา

ผิดหวัง เคราะห์กรรม  ทำอะไรก็ติดขัดตลอดไม่ก้าวหน้า

2.    ต้องได้ความหมายที่ดี และถูกต้องเป็นมงคลตามหลักพจนานุกรม ไม่ตั้งขึ้นมามั่วๆโดยผสมคำขึ้นมาเอง

และไม่มีความหมาย   ตัวอย่างของชื่อที่เหมือนจะดีแต่ ความหมายกับแปลได้ดังนี้ เช่น  ชื่อ วิไล  วิลัย

ความหมาย คือ การย่อยยับ  การแยก  การละลาย  การสลาย  การทำให้สลาย  ความอันตรธาน  ความตาย

แต่คนส่วนใหญ่คิดแต่ว่า ความหมายดีคือสวยงาม อักษรที่ควรเว้น เพราะนอกจากอักษรที่เป็นกาลกิณี และต้อง

ห้ามแล้วยังมีอักษรที่ไม่เป็น กาลกิณีแต่ไม่ควรใช้ในชื่อ  เช่น อักษร ต ฒ ฆ ฑ ง ท ม น ห ย และสระอุ  สระอู

สระอือ  เพราะอักษร เหล่านี้เป็นอักษรขาลง เมื่ออายุเดินถึงอักษรตัวนั้น   จะเกิดเหตุการณ์ตามอักษรนั้นๆ

เช่น  คดีความ แตกแยก  เป็นม่าย  หย่าร้าง  หมดตัว หายนะ โดนโยกย้ายจากตำแหน่ง รวมถึงการตาย

3.    อักษรที่ควรมี ในชื่อ ว  ร  ส  ล  ญ  ณ  ก  ถ  ภ  จ  ธ  ช  ฏ  ฏ  ฐ และควรมีอักษรที่ดี

เช่น ( อิ อี   ไม้หันอากาศ  ทัณฑฆาต  หรือ การันต์ ) เพราะเป็นอักษรขาขึ้น ถ้าอายุเดินสระอิ  สระอี

ยิ่งมีโอกาสได้ทรัพย์ ได้เงิน หรือเลื่อนตำแหน่ง

4.    เลขศาสตร์ ยึดถือได้แต่ยังใช้ไม่ได้ 100%   เลขศาสตร์อย่างเดียวไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะถ้าง่าย

อย่างนั้นคนทั่วไปก็ตั้งตาม เลขศาสตร์  ๑.เลขไหนดีก็เอาเลขนั้นมาใช้  มาตั้งชื่อ-สกุล ประเทศไทยก็คง

มีแต่คนประสบความสำเร็จ ความเจริญกันหมด ตั้งให้ถูกเลขได้  แต่ต้องได้อักษรที่ดีตามที่กล่าวมาข้างต้น

และเมื่อชื่อได้เลขที่ดีแล้วต้องนำมาบวกกับสกุล  ให้ได้ผลรวมที่ดีด้วย มีคนตั้งเยอะตั้งชื่อตามเลขถูกหมด

ทั้งชื่อและนามสกุล แต่ชีวิตกับแย่ลง แย่ลงทุกวัน กิจการล้มเหลว ครอบครัวแตกแยกก็มีตั้งเยอะ ไปให้คน

ที่ดูเลขศาสตร์เป็นก็บอกว่าดี  แต่ทำไมชีวิตถึงยิ่งแย่ลง เพราะชื่อท่านอาจจะอยู่ขาลงของอักษรตัวนั้นๆ

หมายถึง อายุของท่านกำลังเดินที่อักษรขาลง  เช่น อายุอยู่ที่ตัว  ท ง ม น ฑ ฒ ต ย  สระอุ สระอู

เพราะอักษรเหล่านี้เขียนจากหัวภาคสวรรค์ แล้วลากลงนรกข้างล่าง  เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าตอนนี้อายุ

เดินอยู่อักษรตัวไหนขึ้นหรือลง รู้ได้จากการคำนวณ เท่านั้น

5.    การดูอิทธิพลของชื่อที่มีต่อ อายตนะทั้ง 6  อันหมายถึง  ตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ ต้องดูจาก

กำลังดาวแห่งทักษาแล้ว นำมาบวกดูได้ในตารางดาวข้างในและอ่านความหมาย

6.    ตั้งดวงหาธาตุ ในการตั้งชื่อหรือนามสกุลทุกครั้ง  ต้องตั้งดวงดูว่าในดวงเรา เป็นคนธาตุอะไร

เพื่อหาธาตุสำคัญในหลัก 5 ธาตุ  คือ ธาตุ น้ำ  ไม้  ไฟ  ดิน  ทอง  หลักการหาธาตุคือ ต้องตั้งฐานปี

ฐานเดือน  ฐานวัน  ฐานเวลา หรือเรียกว่า  การผูกดวงจีนหาดิถี ต่อจากนั้นต้องดูว่าในดวงเรามีธาตุอะไร

มาก ธาตุอะไรน้อย  หรือขาดธาตุอะไร  เราก็อาจจะหาธาตุที่ขาดมาช่วยหรือมาส่งเสริม แต่ถ้าเราไม่รู้

ตั้งมาผิดพลาด ชีวิตเราก็อาจมีปัญหาอีก

ยกตัวอย่าง เช่น น.ส.ขวัญ เมื่อผูกดวงมาแล้วตามวัน  เดือน  ปี  เวลาเกิด  เป็นคนดิถี ธาตุไฟ

โดยในดวงอาจมีไฟเม็ดเดียว  แต่ดันไปตั้งชื่อที่เกี่ยวกับธาตุน้ำ  เช่น ชื่อ วาริน วริน วารี ชลธิชา ชลาลัย

ชโลธร  กันธิกา  ซึ่งแปลว่าน้ำทั้งนั้น  ในหลัก 5 ธาตุ  ก็คือ น้ำดับไฟ  ท่านก็อาจมีปัญหาตามมา ในเรื่อง

สุขภาพ เช่น ระบบสายตา หัวใจ หรือ หน้าที่การงาน  กิจการล้มเหลวทันที โดยที่ท่านไม่รู้สาเหตุ  ชื่อ เล่น

ก็เหมือนกัน  การตั้งชื่อเล่นให้เด็กแรกเกิดเป็นขาลง จะทำให้เด็กป่วยไข้ เกิดอุบัติเหตุได้  โดยไม่รู้สาเหตุ

ดังนั้น ชื่อเล่นก็  ไม่ควร มีกาลกิณีเหมือนกัน   การตั้งชื่อให้ดี ให้ถูกต้องจึงอาจไม่ง่ายนัก  บางคนชีวิตกำลัง

รุ่งไปตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ – นามสกุล  มาใหม่ เพียงเพื่อให้ตกเลขที่ถูก แต่ชื่อใหม่อาจเดินขาลงชีวิตจึงลงตาม

ตัวอย่างชื่อ เช่น ชื่อเดิม อภิวัฒน์  คุณ อภิวัฒน์" อายุ 49 ปี คำนวณแล้ว อายุเดินอยู่ที่ (ไม้หันอากาศ )

ป่วยกำลังจะรอดอยู่แล้ว  อยู่ๆไปเปลี่ยนชื่อ เป็น  “วรฑา”    “วรฑา” อายุ49ปี  คำนวณแล้ว  พอเปลี่ยนชื่อนี้

อายุเดินอยู่ที่ตัว ฑ  ฑ.นางมณโทขาลง จังหวะที่ 1 จึงเสียชีวิต ทั้งที่ตกเลข 14 แม้จะเป็นเลขที่ดีแต่ก็ช่วยไม่ได้

ฤกษ์ยามในการเปลี่ยนชื่อ

เรื่องฤกษ์ยามในการเปลี่ยนชื่อนั้น  เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ควรต้องหาวันที่ดี  เวลาที่ดีในการเปลี่ยนชื่อ

ไม่ใช่วันชง เวลาชง หรือ วันที่เป็นอุบาทว์  วันโลกาวินาศ หรือวันที่ตรงกับตัวเลขพิฆาต  ควรเป็นวันที่ส่งเสริม

ท่าน  เวลาที่ส่งเสริม  วันที่ตกเลขที่ส่งเสริมกับท่าน  เพราะ วัน เดือน ปี เกิด คือดวงของเรา โดนกำหนดมาแล้ว

จากบุญ กรรมเก่า แต่เมื่อเราเปลี่ยน ชื่อ-สกุล วันที่ เดือน ปี ที่ระบุในบัตรประชาชน จะเป็นตัวกำหนด เหมือนว่า

ท่านได้เกิดใหม่ ในวันที่ เดือน  ปี ตามบัตรประชาชน  ถ้าตกฤกษ์ยามวันดีก็เท่ากับท่านเกิดใหม่ในฤกษ์ที่ดี

แต่ถ้าวัน เดือน ปี ไม่ดีก็ เท่ากับท่านเกิดใหม่ ในวัน เดือน ปี ที่ไม่ดี สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถกำหนดได้  อยู่ที่

ท่านจะรู้ได้ลึกซึ้งขนาดไหน หรือเพียงเพื่อจะเอาชีวิตตัวเอง และครอบครัวเป็นเครื่องทดลอง

การทำบุญหลังเปลี่ยนชื่อ-สกุล

การทำบุญหลังเปลี่ยนชื่อ – สกุล เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ ก็เพราะเจ้ากรรมนายเวรเค้าอยู่กับชื่อเก่าเรามานาน

การที่เราจะเปลี่ยนไปใช้ ชื่อ - สกุล ใหม่ เท่ากับท่านกำลังหนีจากเค้าไป ซึ่งเค้าต้องไม่ยอมแน่ เพราะฉะนั้น

หลังเปลี่ยนชื่อแล้ว  จึงควรทำบุญอุทิศให้ชื่อเก่า  ถ้าเปลี่ยนนามสกุลก็ต้องอุทิศให้ด้วย ตามขั้นตอน เช่น

ถวายพระบูชา  ถวายสังฆทาน  ปล่อยนก  ปล่อยปลา  อื่นๆ อีกเพื่ออุทิศให้ชื่อเก่า และเจ้ากรรมนายเวร

พร้อมขออโหสิกรรม

 

ดวงชะตา

ดวงชะตาของคนเราโดนกำหนดมาแล้วตามบุญและกรรมของเรา จากอดีตชาติที่แล้ว ไม่สามารถแก้ดวงได้

แต่ทำให้ดีขึ้นได้ ด้วยการ จัดวางฮวงจุ้ย ให้ถูกหลักถูกทิศทาง สามารถช่วยได้ 40% ชื่อ – นามสกุล สามารถ

เปลี่ยนให้ดีถ้าท่านเปลี่ยนได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่ว่าจะช่วยส่งเสริมอีก 30% ที่เหลือเป็นดวงของท่านเองอีก

30%  จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับเหตุการณ์บุญกรรม และการกระทำในชาตินี้ด้วย  ต่อให้ทำ ฮวงจุ้ยบ้านถูกต้องหมด

ชื่อ – นามสกุล ถูกกฎเกณฑ์ แต่เป็นคนไม่มีคุณธรรม เอารัด เอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น  ฆ่าสัตว์  ตัดชีวิต

หรือทำอาชีพที่เป็นอาชีพกรรม หรือเคยทำแท้งมาก่อน หรือแนะนำ หรือพาไปซึ่งการทำแท้ง ต่อให้ท่านเปลี่ยน

ชื่อ มากี่ครั้ง  ก็ไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน  อย่าลืมว่า กรรมมันแรงกว่า นอกจากท่านจะไปแก้กรรมมาก่อน

ให้ถูกต้อง จึงจะมีโอกาสที่ดีได้

*** ในการทำแท้ง 1 ครั้ง ชีวิตจะติดลบลง 7 ปี  จะพบแต่ปัญหา อุปสรรค  ไม่สมหวัง คู่ครองแยกทาง

โรคภัยไข้เจ็บ  ต้องพลัดพรากจากคนรักและของรัก โหวงเฮ้งจะตก  พบแต่เรื่องเลวร้ายบางคนเคยทำมา

ถึง 3 ครั้งก็จะติดลบ 21 ปี หาความเจริญในชีวิตไม่ได้ และทำให้ตัวเองอายุสั้นลง ก่อนวัยอันสมควร***

 

ขอให้ทุกท่านใช้สติปัญญาในการแก้ไขให้ได้มากที่สุด